“เกิดไรขึ้นกับเมืองไทยที่เรารัก”
บ้านเมืองของเราทุกวันนี้มีปัญหาหลายเรื่องเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นปัญหาระหว่างประเทศ ในเรื่องของเขาพระวิหาร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพันธมิตรประชาชานเพื่อประชาธิปไตย ที่มีการเคลื่อนไหวไม่เว้นแต่ละวัน จึงมีคำถามเกิดขึ้นในใจว่า”เกิดอะไรขึ้นกับเมืองไทย” ที่พวกเราทุกคนรักและหวงแหนแห่งนี้ ความสงบสุขที่มีอยู่หายไปไหน สยามเมืองยิ้มอันมีชื่อเสียต่อชาวต่างชาติหายไปไหนแล้ว
ด้านปัญหาเขาพระวิหารถึงแม้ว่าทางกัมพูชาจะถอนคำร้องเกี่ยวกับข้อพิพาทต่อองค์การสหประชาติแล้ว แต่ทหารที่เข้าไปเสริมยังบริเวณชายแดนเขาพระวิหาร ยังคงอยู่เช่นเดิม ชาวบ้านบริเวณนั้นก็เริ่มไม่มั่นใจในความปลอดถัยถึงแม้ตามข่าวที่ออกมาว่า ทหารทั้งของไทยและกัมพูชายังคงร่วมรับประทานอาหารด้วยกันก็ตาม แต่หากคิดดูว่า
หากวันไดข้อพิพาทมันรุนแรงขึ้น จากความเป็นพี่น้องต้อมมาหันกระบอกปืนเข้าหากัน นอกจากความเสียหายทางร่างกายแล้วที่สำคัญกว่านั้นคือคนที่เป็นเสมือนพี่น้อง
ต้องมาปกป้องดินแดนที่ตนรักด้วยวิธีการทางทหาร มันช่างน่าปวดร้าว คนรักต้องมาเป็นศัตรู
อีกด้านหนึ่งความแตกแยกในหมู่ของคนไทยในพื้นที่ต่างๆเริ่มทวีความรุนแรง เริ่มต้นที่ม็อบในจังหวัดบุรีรัมย์ที่เข้าทลายเวทีของกลุ่มพิทักษ์รักเมืองบุรีรัมย์ ทำให้ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 17 นาย ในจำนวนนี้สาหัสถึง 2 นาย ชาวบ้านและผู้เข้าร่วมการปราศรัย ก็ได้รับบาดเจ็บตามๆกัน ความรุนแรงเริ่มเกิดขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆในสังคมได้แล้วหรือ!!!!
ทางด้านพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็เดินหน้าโจมตีการทำงานของรัฐบาล
อย่างต่อเนื่องล่าสุดหลังจากที่ถูกม็อบทลายเวทีการปราศรัยที่จังหวัดอุดรธานี ทำให้มีผู้คนได้รับบาดเจ็บไปนั้น เหตุเพราะผู้คนเข้ามาป่วนการปราศรัยมากจนตำรวจไม่สามารถควบคุมเหตุการที่เดิขึ้นได้ จึงได้แต่ยืนดูเหตุการที่เกิดขึ้นและต่อมาก็ถูกเหล่าชาวบ้านตำหนิในการปฏิบัติหน้าที่ ต่อมาหลังจากที่นายสนธิ ลิ้มทองกุลเข้ามอบตัวในข้อหา หมิ่นฯเบื้องสูงและได้รับการประกันตัวออกมาแล้วนั้นได้ให้ข้อมูลว่ามีการล็อปบี้ให้มีการเลิกชุมนุม
และเรียกร้องแท็กซี่ให้ชุมนุมกันที่หน้าสำนักวานใหญ่ ปทต.
และสุดท้ายจบด้วยข่าวคราวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ไปร่วมงานงานพระราชทานเพลิงศพมารดา พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก และได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีข้อพิพาท ไทย-กัมพูชา ว่า ตนเป็นเพียงคนที่ตกงาน และก็ไม่ติดต่อกับทางสมเด็จฮุนเซ็นแต่อย่างได
ตอนนี้มองไปทางไหน ก็เห็นถึงความแตกแยกของคนไทย มีปราศรัยที่ไหนก็มีกลุ่มต่อต้าน ปัญหาข้อพิพาทก็ยังไม่จบ เริ่มมองหาเมืองไทยที่เคยสงบสุข มีเสน่ห์ในรอยยิ้ม วัฒนธรรมที่งดงาม เป็นสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวในอดีต ได้หายไปไหนแล้ว แล้วต่อจากนี้เมืองไทยที่พวกเราทุกคนรัก
จะดำเนินต่อไปในทิศทางได มาช่วยกันดูแลเมืองไทยที่พวกเรารักกันเถอะนะครับ
เพื่อทุกคนจะได้อยู่กันอย่างสงบสุข
1 ความคิดเห็น:
ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีน้ำใจ
ภายใต้จิตสำนึกของคนไทย
ดีกันทุกคน
เพราะฉะนั้น
รักกันๆ
แสดงความคิดเห็น