Thailand


เหตุการณ์ 14 ตุลา 16 นี่คือ ประวัติศาสตร์ที่อย่างให้ใครมาบิดเบือน - ดูวิดีโอทั้งหมด กดที่นี่
14 ตุลา (ประวัติศาสตร์ที่อย่าให้ใครมาบิดเบือน) บุกยึดเอ็นบีทีช่วงเช้า แอบถ่ายไว้ได้
บุกยึดNBTที่สามารถหลอกแอบถ่ายได้ - ดูคลิปทั้งหมด คลิกที่นี่
อยากให้วันนี้ และ ทุก ๆ วัน เป็นวันแห่งความรัก
รักกันไว้เยอะ ๆ นะคะ
ขออภัยหากนำรูปมาโพสท์โดยไม่ได้ขออนุญาติคะ ขอบคุณคะ

วันพฤหัสบดีที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2551


การแก้ รัฐธรรมนูญ
หนทางแห่งทางออก
หรือ
หนทางแห่งการเอาตัวรอด
ประเทศของเรานั้น เกิดปัญหาทางการเมืองขึ้นมาก และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการเมือง ก็พยายามหาทางออกอยู่ตลอด
แต่คำถามที่เกิดขึ้นคือ จะแก้รัฐธรรมนูญ เป็นทางออกแห่งการอยู่รอดของการเมืองไทยหรือไม่ เพราะเมื่อมีการแก้รัฐธรรมนูญพรรคการเมืองหลายพรรค อาจจะสามารถอยู่รอดในการเมืองไทย และไม่ถูกยุบพรรค ถ้ามีการลงมติใน ครม. แล้ว เชื่อว่า มตินี้น่าจะผ่านไปได้ เนื่องจากผลกระทบของมตินี้ มีหลายพรรค ที่จะได้รับผลประโยชน์ แต่มันก็ถือเป็นการหาทางให้การเมืองสามารถเดินทางต่อไปอย่างไม่สะดุด เป็นทางออกแบบหนึ่งที่อาจจะนำมาใช้

แต่ถ้าหากมองในทางกลับกันแล้ว การแก้รัฐธรรมนูญ ก็เป็นเอาตัวรอดของกลุ่มคน กลุ่มคนหนึ่งที่จะได้รับบทลงโทษจากการกระทำที่ผิดต่อรัฐธรรมนูญนี้เอง เมื่อตนกระทำผิดกฎและกำลังจะลงโทษ ย่อมหาทางรอดให้ได้ แล้วสุดท้ายก็มาลงที่กดหมายสูงสุดของประเทศ

แล้วจะทำอย่างไรได้เมื่ออำนาจอยู่ในมือของผู้ที่จะแก้ แล้วองค์กรอิสระที่ทำงานในด้านนี้อยู่ก็พยายามตรวจสอบ ความพยายามตรวจสอบในบางอย่างที่ดำเนินมาตลอด ก็อาจจะมีผลให้ต้องหยุดไปเมื่อมีการแก้รัฐธรรมนูญ ทางออกแบบนี้ย่อมมีทั้งผู้ที่เห็นด้วยละผู้คัดค้านอย่างแน่นอน ซึ่งเป็นหลักธรรมดาของการเมืองไทย ผู้ได้ประโยชน์ย่อมเห็นด้วยและผู้ที่ไม่ได้ประโยชน์หรือเสียประโยชน์บางอย่างไปย่อมไม่เห็นด้วย

และเมื่อมองอีกมุมนึง การเมืองไทยก็ยังไม่เป็นการเมืองที่สะอาดบริสุทธ์ได้เสียที เพราะมีการแก้ไขกฎต่างๆ เพื่อเอาตัวรอดองนักกการเมืองอยู่คตลอด ทำให้ไม่สามารถดำเนินการพัฒนาประเทศได้อย่างต่อเนื่อง
ถึงแม้ว่ายังไม่มีการแก้ไขในตอนนี้ แต่ในอดีตแล้ว ก็มีการกระทำแบบนี้อยู่ตลอดในอดีต และก็ยังเป็นการสืบต่อวัฒนธรรมแบบนี้ของการเมืองมาถึงยุคปัจจุบัน และถ้าหากการเมืองไทยยังคงเป็นแบบนี้ในอยาคตแล้ว การเมืองไทยคงจะพัฒนาไปสู่ความขาวสะอาดและเป็นธรรมได้ยาก
ในฐานนะนักศึกษา เราลองมองว่า ถ้าหากการเมืองไทยยังดำเนินในรูปแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆคำว่าโปร่งใส คงหายไปจากการเมือง และการพัฒนาประเทศคงเป็นไปอย่างเชื่องช้าและนี่หรือคือสิ่งตอบแทนจากความไว้เนื้อเชื่อใจของคนส่วนใหญ
ของประเทศที่เลือกท่านเหล่านั้นเข้าไปเป็นผู้บริหาร