Thailand


เหตุการณ์ 14 ตุลา 16 นี่คือ ประวัติศาสตร์ที่อย่างให้ใครมาบิดเบือน - ดูวิดีโอทั้งหมด กดที่นี่
14 ตุลา (ประวัติศาสตร์ที่อย่าให้ใครมาบิดเบือน) บุกยึดเอ็นบีทีช่วงเช้า แอบถ่ายไว้ได้
บุกยึดNBTที่สามารถหลอกแอบถ่ายได้ - ดูคลิปทั้งหมด คลิกที่นี่
อยากให้วันนี้ และ ทุก ๆ วัน เป็นวันแห่งความรัก
รักกันไว้เยอะ ๆ นะคะ
ขออภัยหากนำรูปมาโพสท์โดยไม่ได้ขออนุญาติคะ ขอบคุณคะ

วันศุกร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2551

พันธมิตรฯ จี้รัฐเร่งสนองพระราชดำรัส ระงับสารพัดโครงการผลาญงบ

พันธมิตรฯ ออกประกาศสนองพระราชดำรัสในหลวง ให้ใช้เงินระมัดระวัง ไม่ให้ชาติล่มจม จี้รัฐบาลยกเลิกโครงการประชานิยมผลาญงบ เพื่อหาเสียง พร้อมระงับการสร้างอาคารรัฐสภาใหม่ 3 หมื่นล้าน และโครงการเมกะโปรเจกต์ถลุงเงินแผ่นดินหลายแสนล้านบาท รวมทั้งงดขยายสุวรรณภูมิเฟส 2 ปรับปรุงดอนเมืองใช้แทน

คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายพิภพ ธงไชย อ่านประกาศพันธมิตรฯ ฉบับที่ 9/2551

เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น.นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ขึ้นเวทีปราศรัยที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ พร้อมประกาศพันธมิตรฯ ฉบับที่ 9/2551 ดังนี้



ประกาศพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ฉบับที่ 9/2551
เรื่อง
เร่งรับสนองกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว


ตามที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงมีกระแสพระราชดำรัสกับคณะผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2551 เป็นใจความว่า

“ขอให้ท่านทั้งหลายบริหารเงินไม่ให้หมด เพื่อให้ประเทศชาติมีเงินใช้ ขอขอบคุณที่มีความตั้งใจบริหารเงินของชาติไม่ให้หมดไป ให้มีใช้”

“ขอบใจที่เหน็ดเหนื่อยเรื่องการเงิน ซึ่งเป็นงานหนัก และสามารถปฏิบัติงานด้านการเงินเป็นที่เรียบร้อยไม่ให้บ้านเมืองล่มจม แม้ตอนนี้ใกล้ล่มจมแล้ว ซึ่งอาจใช้เงินไม่ระวัง เพราะใช้เงินไม่ระวัง”

“เรารู้ว่าท่านเหน็ดเหนื่อย ลำบากใจ นอกจากเหน็ดเหนื่อยแล้วยังถูกหาว่าทำไม่ได้ดี ทำไม่ถูกต้อง ขอบใจทุกคนที่มาในวันนี้ และยังทำงานอย่างเข้มแข็ง เพื่อให้บ้านเมืองมีเงินใช้ ใครที่บริหารการคลังควรรู้ว่าเป็นสิ่งที่สำคัญของชาติบ้านเมือง”

กระแสพระราชดำรัสดังได้อัญเชิญมาข้างต้นนี้มีความชัดเจน และถูกตรงกับสถานการณ์บ้านเมืองที่กำลังมีการใช้จ่ายเงินเกินตัว มีการใช้จ่ายเงินโดยไม่ระวัง ไม่คำนึงถึงการบริหารการคลังที่สำคัญที่สุด มีลักษณะตั้งโครงการผลาญชาติผลาญแผ่นดิน ทำให้เงินแผ่นดินหมดสิ้นไปโดยไม่จำเป็นหรือไร้ประโยชน์ เพียงเพื่อแสวงหาประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้อง แล้วเอาไปซื้อเสียง ซื้อผู้แทนราษฎร ก่อวงจรอุบาทว์อย่างไม่ขาดสายขึ้นในบ้านเมือง

ในฐานะตัวแทนประชาชนผู้รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยขอกราบแทบเบื้องพระยุคลบาทด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นที่ทรงทราบทุกข์เข็ญของบ้านเมืองอย่างละเอียดถี่ถ้วน และทรงพระราชทานแนวทางที่จะป้องกันแก้ไขปัญหาอย่างชัดเจน เพื่อเป็นแนวทางและหลักปฏิบัติของคนทั้งปวงในแผ่นดิน ซึ่งประชาชนผู้จงรักภักดีต่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ทุกชีวิต ขอน้อมรับกระแสพระราชดำรัสนี้เทิดไว้เหนือเกล้า และจะปฏิบัติอย่างพร้อมเพรียงกันทั่วทั้งประเทศ เพื่อให้เกิดสัมฤทธิผลขึ้นดังพระราชดำรัสทุกประการ

เพื่อการนี้ จึงเรียกร้องให้รัฐบาลและรัฐสภาเร่งสนองกระแสพระราชดำรัสดังกล่าวอย่างเคร่งครัด อย่างเต็มกำลัง และโดยเร็วที่สุด เพื่อการนี้ เราเรียกร้องดังต่อไปนี้

ข้อ 1.ให้หยุดโครงการประชานิยมที่ล้างผลาญงบประมาณเพื่อหาเสียงทางการเมืองทั้งหมดในทันที และคิดอ่านโครงการใหม่ที่ทำให้คนไทยมีงานทำ มีรายได้อย่างยั่งยืนทดแทน

ข้อ 2.ให้ระงับโครงการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ที่ต้องใช้เงินงบประมาณถึง 30,000 ล้านบาท โดยไม่จำเป็นและไม่เหมาะสมในทันที

ข้อ 3.ให้ยกเลิกโครงการเช่ารถบัสใช้ก๊าซเอ็นจีวี จำนวน 6,000 คัน ของ ขสมก.ซึ่งใช้เงินงบประมาณถึง 110,000 ล้านบาททันที และถ้าจำเป็นก็ให้เปลี่ยนวิธีเป็นซื้อในราคาคันละประมาณไม่เกิน 4 ล้านบาท และใช้เงินเพียง 24,000 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งจะเป็นการป้องกันการปล้นชาติขนาดใหญ่อย่างได้ผลอีกด้วย และประหยัดเงินงบประมาณถึง 86,000 ล้านบาท

ข้อ 4.ให้ยกเลิกโครงการผันน้ำจากเขื่อนน้ำงึมของลาว ลอดใต้แม่น้ำโขงเข้าสู่ภาคอีสาน ซึ่งต้องใช้เงินงบประมาณถึง 120,000 ล้านบาท เพราะประเทศไทยไม่ได้ขาดแคลนน้ำ ทั้งจะทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ในภาคอีสาน ภาคกลาง และกรุงเทพมหานคร เพิ่มขึ้นอีก หากจำเป็นก็ให้ขุดลอกแหล่งน้ำธรรมชาติและสายน้ำธรรมชาติ ทั้งภาคอีสาน ภาคกลาง และกรุงเทพมหานคร ซึ่งใช้งบประมาณไม่เกิน 30,000 ล้านบาทเท่านั้น ก็จะแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำได้ทั้งปี และประหยัดเงินแผ่นดินได้ถึง 90,000 ล้านบาท

ข้อ 5.ให้ยกเลิกโครงการทางหลวงพิเศษทั้งหมดที่ต้องใช้เงินงบประมาณถึง 170,000 ล้านบาท และเปลี่ยนใช้รถไฟรางคู่แทน ทั้งสายใต้ สายอีสาน และสายรอบเมืองอย่างเป็นขั้นตอน ก็จะประหยัดเงินงบประมาณได้กว่า 100,000 ล้านบาท และยังประหยัดพลังงานในอนาคตและลดค่าใช้จ่ายด้านขนส่งอย่างมหาศาล

ข้อ 6.ให้ยุติการขยายสนามบินสุวรรณภูมิเฟสที่สองที่ต้องใช้เงินประมาณ 70,000 ล้านบาท และให้ปรับปรุงสนามบินดอนเมืองใช้แทน ซึ่งใช้งบประมาณไม่เกิน 20,000 ล้านบาท

ข้อ 7.ให้จัดการประมูลรถไฟฟ้าใต้ดินทั้งหมดให้เป็นไปโดยโปร่งใส และเป็นสากล ยุติการล็อคสเป็คงานและสเป็คผู้รับเหมา ยุติการฉ้อฉลปล้นชาติขนาดใหญ่ในโครงการนี้ในทันที

ข้อ 8.ให้เปิดเผยข้อมูลการทำโครงการที่ใช้เงินงบประมาณเกิน 5,000 ล้านบาทต่อสาธารณะอย่างกว้างขวาง ให้ควบคุมตรวจสอบความจำเป็นใหม่และให้ควบคุมตรวจสอบการประมูลให้เป็นไปโดยโปร่งใส เป็นธรรม และเป็นสากล

ข้อ 9.ให้ยกเลิกโครงการและงบประมาณตามร่างกฎหมายงบประมาณสำหรับโครงการที่ไม่จำเป็น หรือที่ไม่สุจริต หรือที่เป็นไปเพื่อหาเสียงทางการเมือง รวมทั้งยกเลิกงบ ส.ส.คนละ 60 ล้านบาทในทันที

ขอให้พี่น้องประชาชนชาวไทยทั้งประเทศ ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการ ทหาร ตำรวจ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และประชาชน ได้ร่วมแรงร่วมใจกันสนองกระแสพระราชดำรัสนี้ให้เป็นผลสำเร็จเพื่อไม่ให้ชาติล่มจมตามที่ทรงแนะนำไว้ โดยเฉพาะข้าราชการ ขอให้มีความกล้าหาญ มีความเด็ดเดี่ยว มีความสัตย์สุจริตและยืนหยัดปฏิบัติตามกระแสพระราชดำรัสอย่างเต็มกำลังต่อไป

ประกาศ ณ วันที่ 22 สิงหาคม 2551

พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย


http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000099566

แฉ “แม้ว” ผวา พปช.แตก! ต่อสายตรงโอด “ยอมกลืนเลือด” สยบปัญหา

แฉ “แม้ว” ผวา พปช.แตก ออกโรงหย่าศึกภายในด้วยตัวเอง หลัง ส.ส.ขู่ล่าชื่อไล่เฉ่ง "หมัก" ด้าน “ไพจิต” ยอมรับ “นายใหญ่” ต่อสายตรงหวังสยบปัญหาทุกๆ กลุ่ม ด้าน “กรุง” แย้ม “อดีตนายกฯ” โทรให้กำลังใจ ย้ำสบายดีไม่ต้องเป็นห่วง ส่วน “เนวิน” เตรียมแจ้นบินเคลียร์ถึงอังกฤษเร็วๆ นี้

วานนี้ (20 ส.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับเบื้องหลังของการสยบปัญหาภายในพรรคพลังประชาชนนั้น ในซีกของ ส.ส.กลุ่มภาคเหนือ ยอมรับว่าเมื่อคืนวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมาได้มี ส.ส.ภาคเหนือส่วนหนึ่งหารือกันโดย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โทรศัพท์มาหา ส.ส.ในกลุ่มเพื่อพูดคุยถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ได้เปิดสปีกเกอร์โฟนให้ทุกคนที่อยู่ได้พูดคุยด้วย โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ย้ำว่า ทราบความเคลื่อนไหวในการเข้าชื่อของ ส.ส.เพื่อยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค กรณีปล่อยให้ สตช.เผยแพร่หมายจับออกไปทั่วประเทศแล้ว

นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังได้บอกอีกว่า ที่ผ่านมาก็โดนมาเยอะ กลืนเลือดก็ต้องกลืน ทั้งปัญหาในภายในและนอกพรรค ไม่คิดว่าจะถูกกระทำอย่างนี้ ทั้งๆ ที่ตอนหาเสียงและจนทุกวันนี้ใช้ชื่อตนไปหาเสียง และยังให้กำลังใจทุกคนในการทำงาน เพราะขณะนี้อยู่ในที่ปลอดภัยดีแล้ว อีกทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ยอมรับว่าทราบข้อมูลความเคลื่อนไหวแก๊งออฟโฟร์แล้ว

ด้าน ส.ส.ภาคเหนือ ได้แจ้งให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ทราบว่า มี ส.ส.หลายคนกำลังเช็กเวลาเพื่อจะเดินทางบินไปเยี่ยมที่ประเทศอังกฤษด้วย โดยมีประมาณ 7-8 คน ซึ่งเตรียมที่จะบินไปช่วงกลางเดือน ก.ย.นี้ หลังพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2552 เสร็จสิ้น

ขณะที่ นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคพลังประชาชน แกนนำกลุ่มอีสานพัฒนา กล่าวว่า การที่นายสมัครได้มาพูดในที่ประชุมพรรค ถือเป็นการพูดตามสไตล์ และเป็นแบบฉบับในการบริหาร ซึ่งเมื่อมีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ในทางการเมืองก็ต้องช่วยกันประคับประคองกันไป เพราะการทำงานการเมืองจะให้ถูกใจทุกคนทั้งหมดคงไม่ได้ ก็มีขัดใจกันบ้าง บางทีก็ต้องพยายามอดทน

เมื่อถามถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ได้มีส่วนแนะนำการยุติปัญหาภายในบ้างหรือไม่ นายไพจิต กล่าวว่า ท่านได้ส่งสัญญาณผ่าน ส.ส.บางคน ขอให้ช่วยรักษาพรรค ช่วยกันทำภาระทางการเมือง และขอให้มีน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ส่วนกระแสข่าวที่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้โทรศัพท์มาพูดคุยกับ ส.ส.กลุ่มภาคเหนือ เป็นความจริงหรือไม่นั้น นายไพจิต กล่าวยอมรับว่า ท่านก็โทรคุยกับทุกกลุ่ม ทำให้ทุกอย่างจบลงด้วยดี ท่านต้องการให้เกิดความนิ่งให้รัฐบาลบริหารไปได้ หากปล่อยให้เกิดมีเหตุการณ์อย่างนี้ ก็มีปัญหาไม่จบสิ้น ส่วนความคืบหน้าในการตรวจสอบยื่นเรื่องแก๊งออฟโฟร์ให้ ป.ป.ช.นั้น จากที่ได้ฟังการพูดในที่ประชุมแล้ว ทางกลุ่มยังไม่ได้หารือ เพราะต้องขอดูสถานการณ์ทางการเมืองก่อน แต่ยังติดตามตรวจสอบการทำงานต่อไป

ด้าน นายนที สุทินเผือก หรือกรุง ศรีวิไล ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชาชน กลุ่มภาคกลาง ยอมรับว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โทรศัพท์มาพูดคุยกับ ส.ส.ในกลุ่มเมื่อคืนวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่าน โดยให้กำลังใจ และให้ร่วมกันทำงานเพื่อบ้านเมืองต่อไป พร้อมทั้งขอให้อดทนไว้ และย้ำว่า ไม่ต้องเป็นห่วง พ.ต.ท.ทักษิณ ยังสบายดี

รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า ภายหลังจากเกิดปัญหาขัดแย้งภายในพรรคพลังประชาชน และความไม่เข้าใจกันของ ส.ส.ตลอดช่วงที่ผ่านมา ทั้งการออกมาแฉกลุ่มแก๊งค์ออฟโฟร์ ที่มีคนใกล้ชิดนายสมัคร และนายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ซึ่งมีผลกระทบไปถึง พ.ต.ท. ทักษิณ เพราะที่กลุ่มที่ตกเป็นข่าวดังกล่าว เหมือนเตรียมระดมทุนเพื่อไปจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ในอนาคต พร้อมได้ทราบความเคลื่อนไหมมาอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุดคนใกล้ชิดในกลุ่มเพื่อนเนวินแจ้งว่า ในช่วงวันสองวันนี้ นายเนวินได้เตรียมบินไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ประเทศอังกฤษ เพื่อเคลียร์ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น


http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?newsid=9510000098674

“หมัก” อุ้ม “แม้ว” ลั่นไม่มีนโยบายถอนพาสปอร์ตแดง

นายกฯ อุ้ม “แม้ว” ชัด อ้างยังไม่พบเจ้ากระทรวงบัวแก้วประกาศ ลั่นไม่มีนโยบายถอนพาสปอร์ต เคืองสื่อใช้สายตาข่มขู่ หลังถูกซักเรื่องจะเข้าไต่สวนศาล รธน.หรือไม่ กรณีจัดรายการชิมไปบ่นไป

วันนี้ (22 ส.ค.) นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชาชน เดินทางมายังที่ทำการพรรคพลังประชาชน อาคารไอเอฟซีที ถนนเพชรบุรี เพื่อบันทึกเทปชี้แจงผลการดำเนินงานของพรรคการเมือง ความยาวประมาณ 20 นาที ที่ต้องเสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และจะออกอากาศภายในเดือนตุลาคมนี้

ภายหลังการบันทึกเทปผู้สื่อข่าวถามถึงการยกเลิกพาสปอร์ตแดงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่นายเตช บุนนาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้นายกฯ ตัดสินใจ นายสมัคร กล่าวว่า ยังไม่ได้พบกันก็เลยยังไม่มีนโยบาย

เมื่อถามถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดนายสมัครเข้าไต่สวนจากการจัดรายการชิมไปบ่นไป ซึ่งอาจเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 8 กันยายนว่าจะไปให้ปากคำด้วยตัวเองหรือไม่ แต่นายสมัครปฏิเสธที่จะตอบคำถาม โดยถอนหายใจพร้อมหันมาทางกลุ่มผู้สื่อข่าวด้วยสายตาขุ่นเคือง ก่อนก้าวขึ้นรถและเดินทางออกจากทำการ พปช.ไปอย่างรวดเร็ว



http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000099358

ทนายกู้ชาติยันติดหมายจับ “แม้ว” ไม่ผิด - ย้ำช่วยราชการตามล่าอาชญากร

ทนายกู้ชาติ ยัน พันธมิตรฯติดประกาศหมายจับ “แม้วกับเมีย” ไม่มีความผิด ย้ำเจตนาช่วยทางราชการตามหาตัวอาชญากร น่าจะได้รางวัลนำจับด้วยซ้ำ เตือนทนายฝ่ายตรงข้ามอาจโดนข้อหาปกปิดซ่อนเร้นผู้ต้องหา หากอ้างว่าได้รับมอบอำนาจมาแจ้งความดำเนินคดี

คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสุวัตร อภัยภักดิ์ กล่าวถึงข้อกฎหมาย

วันนี้ (21 ส.ค.) นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้กล่าวย้ำถึงข้อฎหมายกรณีที่มีทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไปแจ้งความดำเนินคดีกับแกนนำพันธมิตรฯ กล่าวหาว่า ติดตั้งคัตเอาต์บิดเบือนหมายจับเข้าข่ายลักษณะปลอมแปลงเอกสารทางราชการ โดย นายสุวัตร ยืนยันพันธมิตรฯไม่ได้ทำผิดกฎหมาย และชี้ให้เห็นว่าการนำเรื่องนี้ไปแจ้งความถือว่าไม่มีอะไรจะสู้แล้ว

นายสุวัตร กล่าวว่า หมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร นั้น มีอยู่จริงและออกโดยศาล ซึ่งพันธมิตรฯก็มีหน้าที่ช่วยเหลือราชการ นำมาขยายให้ใหญ่ขึ้น ขณะเดียวกันหมายจับเหล่านี้ก็ได้เผยแพร่ไปทั่วโลกแล้ว

นายสุวัตร ย้ำว่า การกล่าวหาว่า พันธมิตรฯมีความผิดฐานปลอมแปลงเอกสารนั้น ต้องดูที่เจตนา และยกตัวอย่างการปลอมแปลง เช่น กรณีการพิมพ์แบงก์ปลอม ก็ทำขนาดและลักษณะเหมือนกันทุกอย่าง แต่กรณีนี้หมายจับมีจริง แต่มีขนาดเล็กเท่ากระดาษเอ 4 แต่เราต้องการช่วยเหลือราชการจึงนำมาขยายใหญ่ขึ้น ซึ่งตำรวจก็เคยทำแบบนี้ แม้ว่าอาจจะไม่ใหญ่แบบนี้ แต่ก็เคยทำในลักษณะเดียวกัน

ขณะเดียวกัน นายสุวัตร ตั้งข้อสังเกตว่า ตอนนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน หลบหนี อยู่ต่างประเทศ ดังนั้น การที่ทนายความอ้างว่าได้รับมอบอำนาจนั้นแสดงว่ามีการติดต่อกันถือว่าปิดบังซ่อนเร้นผู้ต้องหาหรือไม่

นายสุวัตร ได้กล่าวไปถึงพันธมิตรฯทั่วประเทศ ว่า การปิดหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ไม่มีความผิด ขณะเดียวกัน ถ้ามีการจับกุมตัวได่น่าจะมีรางวัลนำจับด้วย


http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?newsid=9510000099134