Thailand


เหตุการณ์ 14 ตุลา 16 นี่คือ ประวัติศาสตร์ที่อย่างให้ใครมาบิดเบือน - ดูวิดีโอทั้งหมด กดที่นี่
14 ตุลา (ประวัติศาสตร์ที่อย่าให้ใครมาบิดเบือน) บุกยึดเอ็นบีทีช่วงเช้า แอบถ่ายไว้ได้
บุกยึดNBTที่สามารถหลอกแอบถ่ายได้ - ดูคลิปทั้งหมด คลิกที่นี่
อยากให้วันนี้ และ ทุก ๆ วัน เป็นวันแห่งความรัก
รักกันไว้เยอะ ๆ นะคะ
ขออภัยหากนำรูปมาโพสท์โดยไม่ได้ขออนุญาติคะ ขอบคุณคะ

วันจันทร์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2551

"แถลงลี้ภัย ทักษิณ"

ทักษิณ"ร่อนแถลงขอลี้ภัยลอนดอน!

โอดอยู่ไทยไม่ปลอดภัย แถมกระบวนการยุติธรรมไทยถูกแทรกแซง หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม รับไม่ใช่คนดีแต่ไม่ใช่คนเลว ลั่นหากมีวาสนาจะกลับมาตายบนแผ่นดินไทย
วันนี้ (11 ส.ค.) เมื่อเวลา 11.50 น. สถานีโทรทัศน์ เอ็นบีที เป็นโทรทัศน์ช่องแรกที่อ่านแถลงการณ์ของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเขียนด้วยลายมือเนื้อความระบุว่า
"ก่อนอื่น กระผมต้องกราบขอประทานอภัยต่อคณะผู้พิพากษาที่ดินรัชดาฯ รวมถึงพี่น้องประชาชนผู้สนับสนุนผมทุกท่าน ที่ผมและภรรยาได้เดินทางไปยังประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นประเทศที่ยึดหลักการประชาธิปไตยเหนือสิ่งอื่นใด และไม่ได้ไปรายงานตัวต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองสิ่งที่เกิดขึ้นกับผมและครอบครัว พร้อมกับบุคคลผู้ใกล้ชิด เป็นผลพวงต่อเนื่องมาจากความต้องการขจัดผมออกจากการเมือง ด้วยความพยายามลอบสังหาร นอกจากนี้ ยังตามมาด้วยการปฏิวัติรัฐประหาร แต่งตั้งคณะบุคคลที่เป็นปฏิปักษ์มาดำเนินคดีเฉพาะตัวผมและครอบครัว
ร่างรัฐธรรมนูญที่สืบทอดอำนาจเผด็จการ แต่งตั้งบุคคลที่สนับสนุนการปฏิวัติรัฐประหาร ทั้งทางตรงและทางอ้อม เข้าไปเป็นกรรมการในองค์กรต่างๆ เพื่อดำเนินการกับผมเมื่อมีการเลือกตั้งในวันที่ 23 ธันวาคม 2550 ประชาชนส่วนใหญ่ยังคงเลือกพรรคพลังประชาชน ที่ผู้สมัครส่วนมากมาจากพรรคไทยรักไทยเดิม ให้กลับคืนมาทำหน้าที่แทนของพวกเขา ผมคิดว่าเหตุการณ์คงจะดีขึ้น ผมคงมีโอกาสได้กลับไปพิสูจน์ความบริสุทธิ์ และได้รับความเป็นธรรม จึงได้เดินทางกลับมาประเทศไทยเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2551 แต่เหตุการณ์กลับยิ่งเลวร้ายลง เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวผมและครอบครัวเป็นเสมือนผลไม้ ที่เกิดจากต้นไม้ที่เป็นพิษ ผลของมันก็ย่อมเป็นพิษตามไปด้วย นั่นก็คือยังคงมีการสืบทอดระบอบเผด็จการในการจัดการการเมืองไทยในระบอบประชาธิปไตย ตามมาด้วยการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม โดยเอาผลลัพธ์ที่อยากจะได้เป็นตัวตั้ง เพื่อจัดการกับผมและครอบครัว ซึ่งบุคคลกลุ่มนี้ถือว่าเป็นศัตรูทางการเมือง โดยไม่คำนึงถึงระบบกฎหมาย ระบบข้อเท็จจริง และการสอบสวนดำเนินคดีตามหลักนิติธรรมสากล ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายว่าด้วยพยานหลักฐาน การบังคับใช้กฎหมายที่เป็นผลย้อนหลัง ไม่ยอมใช้หลักนิติธรรม และหลักนิติรัฐ ผมและครอบครัวได้ถูกดำเนินการอย่างไม่เป็นธรรมเช่นนี้อย่างต่อเนื่อง
การแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม และการใช้ระบบ 2 มาตรฐานที่เห็นได้อย่างชัดเจน ทำให้ผมและครอบครัว พร้อมด้วยผู้ที่เกี่ยวข้อง ไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่ยังเทียบไม่ได้กับการที่ระบบยุติธรรมของประเทศ และองค์กรที่เกี่ยวข้อง ที่มีเกียรติ มีความน่าเชื่อถือ สั่งสมมาเป็นเวลานานต้องเสื่อมลง เพราะถูกนำมาใช้ทางการเมืองจนขาดความเป็นกลาง ซึ่งเป็นผลเสียหายต่อประเทศอย่างใหญ่หลวง
นอกจากนี้ ผมได้รับข่าวสารตลอดว่า ชีวิตของกระผมไม่ปลอดภัยในการเดินทางไปไหนมาไหน จึงต้องใช้รถกันกระสุน นี่คือผลที่ได้รับจากการเข้ามาทำงานรับใช้ประเทศ ราชบัลลังก์ และประชาชน ด้วยความทุ่มเททำงานอย่างหนักมาตลอด เกือบ 6 ปีที่ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี ผมจึงต้องขออภัยอีกครั้งหนึ่ง ที่ต้องตัดสินใจมาอยู่ที่ประเทศอังกฤษ และขอยืนยันว่า ข้อที่ 1 ผมและครอบครัว มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และราชวงศ์ทุกพระองค์ อย่างหาที่สุดมิได้ แม้ว่าจะมีผู้จงใจใส่ร้ายมาโดยตลอด ข้อที่ 2 ถึงแม้ผมไม่ใช่คนดีสมบูรณ์แบบ แต่ผมขอยืนยันว่า ผมไม่ได้เลวอย่างที่ถูกกล่าวหา เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ผมจะแถลงความจริงในทุกท่านทราบ วันนี้ยังไม่ใช่วันของผม ขอให้ผู้สนับสนุนอดทนอีกนิดหนึ่งครับ ข้อที่ 3 หากผมยังมีวาสนา ผมจะขอกลับมาตายบนผืนแผ่นดินไทย เฉกเช่นคนไทยทุกๆ คน ด้วยความเคารพรักพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร"
เดลินิวส์

http://news.thaihealth.net/modules.php?name=News&file=article&sid=3349

3 ความคิดเห็น:

Politiczaa กล่าวว่า...

หนีคดี ไม่ใช่กลัวโดนลอบสังหารหรอกมั๊ง
คุณอดีตนายก......
ถ้าไม่ผิดจริงคงไม่หนีไปอยู่นู่น
ให้ทางนี้ต้องดำเนินการยุ่งยาก

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

หนีทำไม ถ้าบริสุทธิ์จริงทำไมไม่กลับมาสู้คดี

แล้วทำไมอังกฤษไม่ส่งกลับมา ??

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ถอยเพื่อนตั้งหลักสู้

ไม่ได้ถอยเพราะยอมแพ้